
เมื่อต้องเลือกวัสดุสำหรับประตูหรือหน้าต่าง หนึ่งในคำถามที่เจ้าของบ้านและช่างติดตั้งมักสงสัยคือ “กระจกมีกี่ประเภท แล้วแบบไหนเหมาะกับงานอลูมิเนียม?” เพราะกระจกไม่ได้มีแค่แบบใสหรือแบบเขียว แต่ยังมีอีกหลายชนิดที่ออกแบบมาให้เหมาะกับความต้องการต่างกัน ทั้งในด้านความปลอดภัย การกันความร้อน หรือแม้แต่เรื่องของดีไซน์
บทความนี้ SgQ คลองสาม จะพาคุณไปรู้จัก ประเภทกระจกยอดนิยมที่ใช้ในงานอลูมิเนียม พร้อมแนะนำข้อดี ข้อควรรู้ และเทคนิคการเลือกให้เหมาะกับหน้างาน เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นช่างมืออาชีพหรือเจ้าของบ้านที่กำลังวางแผนสร้าง-รีโนเวทบ้าน
มาดูกันเลยว่า ประเภทของกระจก ที่นิยมใช้กับบานประตูหน้าต่างมีอะไรบ้าง และแบบไหนที่ตอบโจทย์คุณมากที่สุด
ทำไมการเลือก ประเภทกระจก จึงสำคัญสำหรับงานประตูหน้าต่าง
เมื่อพูดถึงการติดตั้งประตูหรือหน้าต่าง หลายคนมักให้ความสำคัญกับกรอบบานหรือดีไซน์ภายนอก แต่สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ “ประเภทของกระจก” ที่เลือกใช้ เพราะกระจกไม่ใช่แค่ส่วนที่ช่วยให้บ้านดูโปร่ง โล่ง หรือสวยงามเท่านั้น แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อ ความแข็งแรง ความปลอดภัย และการป้องกันความร้อน ภายในบ้านหรืออาคาร
หากเลือกประเภทกระจกไม่เหมาะสม อาจเกิดปัญหาตามมา เช่น กระจกแตกร้าวง่าย รับแรงกระแทกไม่ได้ หรือบ้านร้อนจัดเพราะไม่มีคุณสมบัติกันความร้อน ซึ่งล้วนเป็นปัญหาที่กระทบต่อการใช้งานในระยะยาวและความพึงพอใจของผู้อยู่อาศัย
การเลือกใช้ ประเภทกระจก ที่เหมาะสมกับงานอลูมิเนียม เช่น กระจกนิรภัยเทมเปอร์ กระจกฉนวน หรือกระจก Low-E ไม่เพียงช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบบานประตูหน้าต่าง แต่ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและเพิ่มประสิทธิภาพในการกันเสียง กันฝุ่น และควบคุมอุณหภูมิได้ดียิ่งขึ้น
ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของบ้านหรือช่างผู้ติดตั้ง การทำความเข้าใจเรื่อง “ประเภทของกระจก” และเลือกให้ตรงกับลักษณะการใช้งาน จึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรละเลย
ประเภทกระจกยอดนิยมในงานอลูมิเนียม
กระจกแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ทั้งในเรื่องของความปลอดภัย การกันความร้อน การกรองแสง ไปจนถึงการควบคุมเสียงและเพิ่มความเป็นส่วนตัว การเลือกกระจกที่เหมาะสมกับรูปแบบบานและลักษณะการใช้งานจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะส่งผลต่อทั้ง ประสิทธิภาพการใช้งาน อายุการใช้งาน และความสวยงามของบ้านหรืออาคารโดยรวม
กระจกใสธรรมดา (Clear Float Glass)
กระจกใสธรรมดา หรือที่เรียกกันว่า กระจกโฟลต (Float Glass) คือกระจกพื้นฐานที่พบได้ทั่วไป มีลักษณะใส ผิวเรียบทั้งสองด้าน และสามารถมองผ่านได้อย่างชัดเจน จุดเด่นของกระจกประเภทนี้คือ ราคาประหยัด และสามารถนำไปแปรรูปเพิ่มเติม เช่น การพ่นทราย การพิมพ์ลาย หรือการเคลือบสีได้ตามต้องการ
แม้จะเป็นกระจกที่นิยมใช้ในหลายงาน แต่ควรทราบว่า กระจกใสธรรมดาไม่มีคุณสมบัติด้านความปลอดภัย เช่นเดียวกับกระจกนิรภัย หากเกิดการกระแทกหรือแรงกระทบที่รุนแรง จะเกิดการแตกเป็นแผ่นหรือเสี้ยนแหลม ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานได้
เหมาะสำหรับ:
-
งานตกแต่งภายใน เช่น กระจกเงา, กระจกติดผนัง, ฉากกั้นที่ไม่สัมผัสบ่อย
-
หน้าต่างภายในบ้านที่ไม่ได้รับแรงลมหรือแรงกระแทกโดยตรง
-
งานที่ต้องการควบคุมงบประมาณในระดับหนึ่ง
ข้อควรระวัง:
-
ไม่ควรใช้กับประตูหรือหน้าต่างบานเปิด-ปิด ที่อาจเกิดแรงกระแทก
-
หากจำเป็นต้องใช้ในงานที่มีความเสี่ยง ควรนำไปผ่านกระบวนการอบนิรภัย (อบเทมเปอร์) หรือทำเป็นกระจกลามิเนตเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความปลอดภัย
กระจกใสธรรมดาถือเป็นตัวเลือกที่ดีในแง่ของ ความคุ้มค่าและความเรียบง่าย แต่ควรใช้อย่างเหมาะสมกับลักษณะงาน หากต้องการความปลอดภัยมากขึ้น ควรเลือกประเภทกระจกที่มีคุณสมบัติเสริมแรงเพิ่มเติมร่วมด้วย
กระจกเทมเปอร์ (Tempered Glass)
กระจกเทมเปอร์ คือกระจกนิรภัยที่ผ่านกระบวนการอบด้วยความร้อนสูง และทำให้เย็นลงอย่างรวดเร็ว ทำให้โครงสร้างภายในของกระจกเปลี่ยนไปและเกิดแรงอัดบนผิวกระจก จึงมีความแข็งแรงมากกว่ากระจกธรรมดาถึง 4–5 เท่า เมื่อเกิดการแตก จะไม่เป็นเสี้ยนคมเหมือนกระจกทั่วไป ซึ่งลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้มาก
จุดเด่นของกระจกเทมเปอร์
- หากกระจกเกิดการแตก จะไม่แตกเป็นเสี้ยนแหลมเหมือนกระจกทั่วไป แต่จะแตกเป็นเม็ดเล็ก ๆ คล้ายเม็ดข้าวโพด ลดอันตรายจากการบาดเจ็บได้มาก
- ทนต่อแรงกระแทก แรงลม และแรงดันอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น จากแดดร้อนจัดไปสู่ฝนตกทันที
เหมาะสำหรับงานอลูมิเนียมประเภทใด?
กระจกเทมเปอร์นิยมใช้งานในระบบบานอลูมิเนียมที่มีความเสี่ยงต่อแรงกระแทก เช่น:
- ประตูบานเปลือย (Frameless Door) ที่ไม่มีกรอบปกป้องรอบด้าน
- บานเลื่อน ที่ต้องการความแข็งแรงและทนการเปิด–ปิดบ่อย
- ฉากกั้นอาบน้ำ หรือประตูกระจกในพื้นที่สาธารณะ เช่น อาคารสำนักงาน
ข้อควรรู้ :
- กระจกเทมเปอร์ ไม่สามารถตัด เจาะ หรือเจียหลังจากอบแล้วได้ หากต้องการแปรรูปต้องทำให้เสร็จก่อนนำไปอบ
- ถึงจะแข็งแรงกว่ากระจกธรรมดา แต่เมื่อเกิดการกระแทกในจุดอ่อน เช่น ขอบกระจก ก็ยังสามารถแตกได้
หากกำลังมองหากระจกที่มีความแข็งแรง ใช้งานได้ปลอดภัย และเหมาะกับงานบานอลูมิเนียมที่เสี่ยงต่อแรงกระแทก กระจกเทมเปอร์ คือคำตอบที่ทั้งช่างและเจ้าของบ้านวางใจมากที่สุด โดยเฉพาะในงาน ประตูบานเลื่อน ประตูเปลือย หรือพื้นที่ที่เน้นความปลอดภัย
กระจกลามิเนต (Laminated Glass)
กระจกลามิเนต คือกระจกนิรภัยอีกประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในงานประตูหน้าต่าง เนื่องจากมีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่โดดเด่น กระจกลามิเนตผลิตโดยการนำกระจก 2 แผ่นขึ้นไปมาประกบเข้าด้วยกัน โดยมีแผ่นฟิล์มพลาสติกชนิดพิเศษ (PVB หรือ SGP) อยู่ตรงกลาง ซึ่งทำหน้าที่ยึดเกาะเศษกระจกไว้หากเกิดการแตก
จุดเด่นของกระจกลามิเนต
- ปลอดภัยสูง : เมื่อกระจกแตก เศษกระจกจะยังติดอยู่กับฟิล์ม ไม่หลุดร่วงลงมา ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บหรือความเสียหาย
- ป้องกันการบุกรุก : เนื่องจากกระจกยังคงยึดติดกันแม้แตก จึงทำให้การทุบเพื่อบุกรุกทำได้ยาก
กันเสียง : ฟิล์มตรงกลางช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดี - ป้องกันรังสี UV : บางรุ่นสามารถกรองรังสี UV ได้มากถึง 99% ปกป้องเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งไม่ให้ซีดจางเร็ว
เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่ใด
- ประตูหน้าบ้าน หรือจุดที่ต้องการความปลอดภัยเป็นพิเศษ
- อาคารสูง ที่มีกระจกขนาดใหญ่ และอยู่ในจุดที่หากกระจกแตกแล้วร่วงลงมาจะอันตราย
- พื้นที่ใกล้ถนนใหญ่ หรือแหล่งจราจร ที่ต้องการลดเสียงรบกวน
ข้อควรรู้
- น้ำหนักมากกว่ากระจกธรรมดาและกระจกเทมเปอร์
- ราคาโดยรวมจะสูงกว่ากระจกใสทั่วไป แต่คุ้มค่ากว่าในระยะยาว
- ควรเลือกใช้ชุดอลูมิเนียมที่รับน้ำหนักและแรงได้ดี เช่น ระบบบาน ORM หรือ ASG ที่ออกแบบมารองรับกระจกนิรภัยโดยเฉพาะ
หากต้องการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในบ้านหรือโครงการที่พักอาศัย กระจกลามิเนตคือหนึ่งในตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด โดยเฉพาะในจุดที่ต้องการป้องกันอุบัติเหตุหรือการบุกรุก เช่น ประตูหน้าบ้าน หน้าต่างชั้นบน หรืออาคารสูง ซึ่งต้องใช้กระจกที่ไม่เพียงแค่สวย แต่ยังปลอดภัยและใช้งานได้อย่างมั่นใจในระยะยาว
กระจกฉนวน (Insulated Glass / IGU)
กระจกฉนวน หรือที่เรียกกันในวงการช่างว่า IGU (Insulated Glass Unit) คือกระจก 2 ชั้นที่มีช่องว่างอากาศหรือก๊าซเฉื่อย (เช่น Argon) อยู่ตรงกลาง เพื่อช่วยลดการถ่ายเทความร้อนและเสียงระหว่างภายนอกและภายในอาคาร ถือเป็นหนึ่งในนวัตกรรมกระจกที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยยุคใหม่ ที่ต้องการทั้งความเงียบและความเย็นสบายในบ้าน
จุดเด่นของกระจกฉนวน IGU
- กันความร้อนได้ดี: ช่องว่างระหว่างกระจกทำหน้าที่เป็นฉนวน ลดการนำความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ตัวบ้าน ช่วยให้ภายในเย็นขึ้น
- กันเสียงรบกวน: ลดเสียงจากถนน เสียงรถ หรือเสียงภายนอกอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ลดภาระการทำงานของเครื่องปรับอากาศ: ช่วยประหยัดพลังงานและค่าไฟในระยะยาว
เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่ใด?
กระจก IGU เหมาะกับงานประตูหน้าต่างอลูมิเนียมในพื้นที่ที่ต้องการคุณภาพชีวิตที่ดี เช่น:
- บ้านพักอาศัยที่ต้องการประหยัดพลังงาน
- อาคารสำนักงานที่เน้นการควบคุมอุณหภูมิ
- โครงการที่อยู่ในทำเลเสียงดัง เช่น ใกล้ถนนหลัก หรือสนามบิน
- บานใหญ่ เช่น บานเลื่อนเชื่อมต่อสวน หรือหน้าต่างสูงเต็มบาน
ข้อควรรู้
- กระจก IGU มีน้ำหนักมากกว่ากระจกทั่วไป จึงต้องเลือกใช้ ชุดอลูมิเนียมคุณภาพสูง ที่รับน้ำหนักได้ เช่น ระบบ ORM, Schimmer หรือ ASG
- ติดตั้งต้องอาศัยช่างที่มีความชำนาญ เพื่อให้ได้ซีลแน่นสนิท ไม่รั่วอากาศ
ราคาจะสูงกว่ากระจกทั่วไป แต่เมื่อเทียบกับการประหยัดพลังงานระยะยาว ถือว่าคุ้มค่า
กระจกฉนวน IGU เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย ทั้งในด้านอุณหภูมิ เสียง และการประหยัดพลังงาน เหมาะกับบ้านยุคใหม่ที่ต้องการความเงียบเย็น ประหยัดค่าไฟ และเพิ่มคุณภาพชีวิตในทุกวัน โดยเฉพาะเมื่อติดตั้งร่วมกับระบบบานอลูมิเนียมที่ได้มาตรฐาน จะยิ่งเสริมประสิทธิภาพของบ้านคุณได้แบบเต็มขั้น
กระจกสีตัดแสง (Heat Absorbing Glass)
กระจกสีตัดแสง หรือในชื่อทางเทคนิคว่า Heat Absorbing Glass เป็นกระจกที่ผสมสารโลหะหรือออกไซด์บางชนิดไว้ในเนื้อกระจกระหว่างการผลิต ทำให้กระจกมีเฉดสี เช่น เขียว ฟ้า เทา หรือบรอนซ์ โดยไม่ได้เป็นแค่เรื่องของความสวยงามเท่านั้น แต่ยังช่วย ดูดซับความร้อนจากแสงแดด และลดปริมาณรังสี UV ที่ผ่านเข้ามาภายในอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จุดเด่นของกระจกสีตัดแสง
- ลดความร้อน ดูดซับและลดความเข้มของแสงแดดที่ส่องผ่านเข้ามา ทำให้อุณหภูมิภายในบ้านหรืออาคารเย็นลง
- ลดแสงจ้า เหมาะกับจุดที่ได้รับแสงแดดโดยตรง เช่น หน้าต่างฝั่งทิศตะวันตก หรือทิศใต้
- เพิ่มความเป็นส่วนตัว ด้วยสีของกระจกที่เข้มขึ้น ทำให้คนภายนอกมองเข้ามายากขึ้นเมื่อเทียบกับกระจกใส
เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่ใด?
- หน้าต่างหรือประตูฝั่งทิศตะวันตกและทิศใต้ ที่ได้รับแสงแดดแรงตลอดช่วงบ่าย
- อาคารที่ต้องการลดภาระเครื่องปรับอากาศ เช่น โฮมออฟฟิศ ร้านค้า หรือคาเฟ่
- บ้านพักอาศัยที่ต้องการทั้งความเย็นและดีไซน์แบบโมเดิร์น
ข้อควรรู้
- กระจกสีตัดแสงสามารถ นำไปอบเทมเปอร์หรือลามิเนตเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มความปลอดภัย
- สีของกระจกจะทำให้การมองเห็นภายนอกเปลี่ยนไปบ้าง ควรเลือกสีให้เหมาะกับบรรยากาศโดยรวมของบ้าน
- ไม่ควรใช้กระจกชนิดนี้ในจุดที่ต้องการแสงธรรมชาติแบบเต็มที่ เช่น ห้องปลูกต้นไม้ หรือพื้นที่อ่านหนังสือ
กระจกสีตัดแสงไม่เพียงแต่เพิ่มมิติความสวยงามให้กับประตูหน้าต่างอลูมิเนียมเท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติช่วย ลดความร้อนจากแสงแดด และเพิ่มความสบายในการอยู่อาศัย เหมาะอย่างยิ่งกับบ้านที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตก หรืออาคารที่ต้องเผชิญกับแสงแดดจัดในช่วงบ่าย ถ้าอยากให้บ้านเย็นขึ้นแบบไม่ต้องพึ่งแอร์หนัก ๆ กระจกชนิดนี้คือตัวช่วยที่น่าสนใจไม่น้อย
กระจกโลว์อี (Low-E Glass)
กระจกโลว์อี หรือ Low-Emissivity Glass คือกระจกชนิดพิเศษที่ถูกเคลือบด้วยสารโลหะบางระดับนาโน บริเวณผิวกระจก เพื่อช่วยสะท้อนรังสีความร้อนอินฟราเรด (IR) และรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จากแสงแดด ในขณะที่ยังคงให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาได้อย่างเพียงพอ
กระจกประเภทนี้จึงมีคุณสมบัติเด่นในด้าน การควบคุมอุณหภูมิภายในบ้าน ช่วยให้บ้านเย็นลงในหน้าร้อน และรักษาความอบอุ่นในฤดูหนาว ลดภาระการทำงานของเครื่องปรับอากาศและช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างเห็นผล
จุดเด่นของกระจก Low-E
- กันความร้อนจากรังสีอินฟราเรดได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะในบ้านที่รับแดดจัด
- กรองรังสี UV ได้มากกว่า 80% ช่วยถนอมเฟอร์นิเจอร์ไม่ให้ซีดจาง
- ยังให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้ จึงไม่ทำให้บ้านดูมืดเหมือนกระจกสะท้อนแสงทั่วไป
เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่ใด?
- บ้านหรืออาคารที่ต้องการ ควบคุมอุณหภูมิ เพื่อความสบายและประหยัดพลังงาน
- หน้าต่างบานใหญ่ / ประตูบานเลื่อน ที่โดนแดดโดยตรง
- อาคารเขียว (Green Building) ที่ต้องการวัสดุประหยัดพลังงาน
เพิ่มประสิทธิภาพด้วย IGU (Insulated Glass Unit)
กระจก Low-E จะให้ผลลัพธ์สูงสุดเมื่อ ผสานกับระบบกระจกฉนวน (IGU) โดยติดตั้งเป็นแผ่นด้านในหรือด้านนอกของกระจกสองชั้น การใช้งานร่วมกันนี้จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการกันความร้อน กันเสียง และลดการถ่ายเทพลังงานได้ดียิ่งขึ้น เหมาะกับบ้านยุคใหม่ที่ต้องการทั้งความเงียบ ความเย็น และความประหยัดในระยะยาว
ข้อควรรู้
- กระจก Low-E มีราคาสูงกว่ากระจกทั่วไป แต่ให้ผลตอบแทนในระยะยาวผ่านการประหยัดค่าไฟ
- ควรติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้แน่ใจว่าวางทิศทางของสารเคลือบได้ถูกต้องตามหลักการใช้งาน
กระจกโลว์อี (Low-E Glass) เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับบ้านยุคใหม่ที่ต้องการลดความร้อนจากภายนอก โดยไม่ต้องแลกกับแสงธรรมชาติ พร้อมช่วยลดภาระของเครื่องปรับอากาศและเพิ่มความสบายในทุกฤดู หากต้องการประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ควรติดตั้งร่วมกับกระจก IGU และใช้ร่วมกับระบบบานอลูมิเนียมที่ซีลแน่น เช่น ORM หรือ Schimmer ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงานประหยัดพลังงานโดยเฉพาะ
ตารางสรุปประเภทกระจกในงานอลูมิเนียม

เลือกประเภทกระจกให้เหมาะกับ “หน้าต่าง – ประตู – งานติดตั้ง”
ในการติดตั้งระบบประตูหน้าต่างอลูมิเนียม การเลือกแค่กรอบบานที่แข็งแรงอย่างเดียวอาจไม่พอ เพราะ “กระจก” ที่เลือกใช้ก็มีผลอย่างมากต่อทั้ง ความปลอดภัย การใช้งาน และความสวยงามของตัวบ้าน การเลือก ประเภทกระจกอลูมิเนียม ให้เหมาะกับรูปแบบบานแต่ละประเภทจึงเป็นสิ่งที่ช่างและเจ้าของบ้านไม่ควรมองข้าม
หน้าต่างบานเลื่อน / ประตูบานเลื่อน
- กระจกแนะนำ : กระจกเทมเปอร์ / กระจกสีตัดแสง / กระจกโลว์อี
- เหตุผล : บานเลื่อนใช้งานบ่อย และมีโอกาสโดนแรงกระแทก ควรใช้กระจกที่แข็งแรง และช่วยลดความร้อน
- อลูมิเนียมที่เหมาะสม : ระบบบานเลื่อน ORM หรือ Fuji Metal ที่มีรางแข็งแรง รับน้ำหนักกระจกได้ดี
ประตูบานเปลือย (Frameless Glass Door)
- กระจกแนะนำ : กระจกเทมเปอร์ หนา 10-12 มม.
- เหตุผล : เนื่องจากไม่มีกรอบล้อมรอบ ต้องใช้กระจกที่แข็งแรงสูงสุดและปลอดภัยเมื่อแตก
- อลูมิเนียมประกอบเสริม : ชุดฟิตติ้งสเตนเลส หรืออลูมิเนียม Schimmer สำหรับชุดบานเปลือยที่ออกแบบให้ดูทันสมัย
ประตูหน้าบ้าน / ประตูหลักทางเข้า
- กระจกแนะนำ : กระจกลามิเนต / กระจกฉนวน (IGU) / กระจกโลว์อี
- เหตุผล : พื้นที่นี้ต้องการความปลอดภัย และกันความร้อนจากแสงแดดโดยตรง
- อลูมิเนียมที่เหมาะสม : ชุดประตู ASG หรือ ORM รุ่นรองรับกระจกนิรภัย และบานใหญ่พิเศษ
หน้าต่างห้องนอน / หน้าต่างด้านถนน
- กระจกแนะนำ : กระจกลามิเนต / กระจกสีตัดแสง / กระจก IGU
- เหตุผล: ลดเสียงรบกวนจากภายนอก พร้อมป้องกันการแตกหรือบุกรุก
- อลูมิเนียมที่เหมาะสม : ORM รุ่นใส่สักหลาดแน่นพิเศษ หรือลูกบิดล็อก 2 ชั้น
หน้าต่างทิศตะวันตก / พื้นที่รับแดดจัด
- กระจกแนะนำ: กระจกโลว์อี / กระจกสีตัดแสง
- เหตุผล: เน้นลดความร้อนจากแสงแดดโดยตรง ช่วยลดค่าไฟ
- อลูมิเนียมที่เหมาะสม: Schimmer หรือ ASG ที่ซีลแน่น รองรับบานกระจกฉนวน
เลือกประเภทกระจกอลูมิเนียมให้ตรงกับ “หน้างาน”
การเลือก ประเภทกระจกอลูมิเนียม ที่เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ ไม่เพียงช่วยเพิ่มความสวยงาม แต่ยังยืดอายุการใช้งาน ลดปัญหา และเพิ่มความปลอดภัยได้ในระยะยาว ซึ่งการเลือกใช้ร่วมกับ ระบบบานอลูมิเนียมคุณภาพสูง เช่น ORM, ASG, Fuji Metal หรือ Schimmer จะยิ่งช่วยเสริมให้ระบบประตูหน้าต่างมีความครบเครื่องทั้งในด้านฟังก์ชันและดีไซน์
ประเภทกระจกที่ควรรู้ ก่อนเลือกใช้ในงานอลูมิเนียม
หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกับประเภทกระจกยอดนิยมในงานประตูหน้าต่างอลูมิเนียม จะเห็นได้ชัดว่ากระจกแต่ละชนิด มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ทั้งด้านความแข็งแรง ความปลอดภัย การป้องกันความร้อน หรือแม้กระทั่งเรื่องของความเป็นส่วนตัว
ไม่ว่าจะเป็นกระจกเทมเปอร์ที่ทนแรงกระแทกได้ดี, กระจกลามิเนตที่ปลอดภัยเมื่อต้องการติดตั้งในพื้นที่เสี่ยง, หรือกระจกโลว์อีที่ช่วยสะท้อนความร้อนและลดค่าไฟ การเลือกใช้ที่เหมาะสมกับ “หน้างานจริง” จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
หากคุณไม่แน่ใจว่าจะเลือกกระจกแบบไหนดีให้เหมาะกับบานเลื่อน บานเปลือย หรือประตูหน้าบ้าน การ ปรึกษาช่างมืออาชีพ ที่เข้าใจทั้งคุณสมบัติกระจกและระบบบานอลูมิเนียม จะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าและปลอดภัยที่สุดในระยะยาว
สนใจเลือกกระจกคุณภาพสำหรับงานประตูหน้าต่างอลูมิเนียม ปรึกษาทีมงาน เอสจีคิว คลองสาม ได้เลย!
เราพร้อมให้คำแนะนำทุกประเภทกระจกยอดนิยม พร้อมจัดจำหน่ายคู่กับชุดอลูมิเนียมคุณภาพสูงอย่าง ORM, ASG, Fuji Metal และ Schimmer เพื่อให้งานติดตั้งของคุณ “สวย ครบ จบอย่างมืออาชีพ” ตั้งแต่ชิ้นแรกจนถึงชิ้นสุดท้าย
สอบถามเพิ่มเติมกับ เอสจีคิว คลองสาม ได้ที่ :
ติดต่องานติดตั้ง โทร : 0993921963 (คุณกัน)
ซื้ออลูมิเนียมและอุปกรณ์ โทร : 0818852629 (คุณต่าย), 0944242630 (คุณอาโป)